ทุกวันนี้เราได้ยินคำว่า “Vision” อยู่แทบทุกองค์กร ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่หรือสตาร์ทอัพที่เพิ่งเริ่มต้น ทุกแห่งต่างมีเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ที่อยากเปลี่ยนโลกในแบบของตัวเอง แต่ในความสวยงามของคำว่า วิสัยทัศน์ กลับมีอีกด้านหนึ่งที่ไม่ค่อยถูกพูดถึงนัก คือ ความเหนื่อยของคนที่อยู่เบื้องหลังการทำให้ Vision นั้นเป็นจริง
องค์กรที่มี Vision ชัดเจนมักเต็มไปด้วยพลังและแรงบันดาลใจ แต่หลายครั้งในความพยายามจะไปให้ถึงเป้าหมายนั้น กลับทำให้คนทำงานรู้สึกหมดแรงโดยไม่รู้ตัว เพราะถูกผลักให้เดินตามอุดมคติที่ยิ่งใหญ่ จนลืมว่าพลังขององค์กรเริ่มต้นจาก คน

เมื่อ Vision กลายเป็นแรงผลักที่ดีเกินไป
Vision ที่ดีจะเป็นเหมือนเข็มทิศที่ชี้ทางให้องค์กรรู้ว่ากำลังเดินไปไหน และทำไปเพื่ออะไร แต่ถ้าแรงผลักนั้นแรงเกินไป มันอาจกลายเป็น “แรงกดดัน” ที่ค่อย ๆ บั่นทอนคนทำงาน
หลายองค์กรตั้งเป้าที่ชัดเจนแต่ไม่เผื่อพื้นที่ให้คนหายใจ เช่น ต้องเติบโต 200% ภายในปี ต้องเป็นผู้นำตลาดในสามปี หรือจะต้องพลิกอุตสาหกรรมให้เปลี่ยนไปในห้าปี ฟังดูน่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยพลัง แต่ในอีกมุมหนึ่ง มันอาจหมายถึงการที่คนทำงานต้องวิ่งไม่หยุด ต้องคิดไม่หยุด และต้อง “พร้อมตลอดเวลา” เพื่อทำให้ Vision นั้นเกิดขึ้น
เมื่อความคาดหวังสูงขึ้น แต่เวลา พลัง และชีวิตจริงของคนยังเท่าเดิม ความเหนื่อยก็เริ่มสะสมโดยไม่รู้ตัว
Vision ใหญ่ไม่ผิด แต่ปัญหาคือการมองคนเล็กเกินไป
สิ่งที่องค์กรจำนวนมากมักลืมคือ Vision จะเกิดขึ้นได้จริงก็ต่อเมื่อ “คนในองค์กรยังมีแรง” แต่องค์กรที่มุ่งเน้นเป้าหมายมากเกินไปมักเผลอมองข้ามความเป็นมนุษย์ของทีมงาน เห็นแต่ตัวเลข แผนงาน และผลลัพธ์ โดยไม่ได้เห็น “ความพยายามที่มาพร้อมความเหนื่อย”
บางครั้งผู้บริหารพูดเสมอว่า ทุกคนคือหัวใจขององค์กร แต่ในทางปฏิบัติกลับไม่มีระบบสนับสนุนให้คนรู้สึกว่าพวกเขาสำคัญจริง ๆ เช่น ไม่มีเวลาพัก ไม่มีการรับฟัง หรือไม่มีพื้นที่ให้แสดงความคิดเห็นอย่างปลอดภัย
สิ่งเหล่านี้ทำให้คนรู้สึกว่าพวกเขากำลังทำงานเพื่อ Vision ของใครบางคน มากกว่าที่จะรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของ Vision นั้นจริง ๆ

เมื่อแรงบันดาลใจกลายเป็นแรงกดดัน
หลายองค์กรใช้ Vision เป็นแรงบันดาลใจ เช่น อยากสร้างอนาคตที่ดีขึ้น หรืออยากทำให้โลกเปลี่ยนไปในทางที่ดีกว่า แต่ถ้าไม่มีการจัดการพลังงานของคนให้ดี แรงบันดาลใจนี้จะกลายเป็นแรงกดดันในที่สุด
คนทำงานที่เคยเต็มไปด้วยไฟ จะเริ่มรู้สึกหมดไฟ เพราะถูกคาดหวังให้ “เต็มที่เสมอ” เหมือนเครื่องจักรที่ไม่มีวันพัก และเมื่อความเหนื่อยสะสมโดยไม่มีจุดผ่อนแรง สุดท้ายแรงบันดาลใจจะกลายเป็นความรู้สึกผิด ที่ไม่สามารถทำให้ Vision นั้นสำเร็จตามเป้าได้
นี่คือเหตุผลที่หลายองค์กรแม้จะมี Vision ที่ชัด แต่กลับเผชิญปัญหาเรื่องคนลาออก หรือขวัญกำลังใจตกต่ำ เพราะ Vision ที่ไม่เผื่อที่ว่างให้ “มนุษย์” มีชีวิตจริง ๆ ย่อมไม่ยั่งยืน
ระบบที่ดีต้องเติบโตพร้อมคน ไม่ใช่แทนคน
องค์กรที่เข้าใจการเติบโตจริง ๆ จะรู้ว่า ระบบที่แข็งแรงคือระบบที่ช่วยให้คนทำงานได้ดีขึ้น ไม่ใช่ระบบที่บีบให้คนต้องทำงานหนักขึ้น
การมี Vision ใหญ่จึงไม่ใช่เรื่องผิด แต่ต้องมาพร้อม “ระบบสนับสนุนคน” ที่ดี เช่น การออกแบบการทำงานที่สมดุล การให้เวลาพักที่เพียงพอ การสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้คนพูดคุยได้ตรงไปตรงมา และการให้รางวัลกับความพยายาม ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์
เพราะถ้าองค์กรมีแต่ Vision แต่ไม่มีระบบดูแลพลังงานของคน สุดท้าย Vision ก็จะกลายเป็นภาพฝันที่ไม่มีใครเหลือแรงจะไปถึง
การเห็นคุณค่าของความเหนื่อย คือรากฐานของ Vision ที่แท้จริง
องค์กรที่เติบโตอย่างยั่งยืนจะไม่กลัวการยอมรับว่าทีมงานเหนื่อย เพราะการยอมรับคือจุดเริ่มต้นของการฟัง และการฟังคือก้าวแรกของการสร้างวัฒนธรรมที่ดี
การเห็นคุณค่าความเหนื่อยไม่ได้หมายถึงการลดเป้าหมาย แต่มันหมายถึงการเข้าใจว่าคนไม่สามารถสร้างสิ่งยิ่งใหญ่ได้หากพวกเขาไม่รู้สึกได้รับการเห็นใจ บางครั้งสิ่งที่ทีมต้องการอาจไม่ใช่โบนัสหรือคำชม แต่เป็นคำพูดง่าย ๆ ว่า “พักก่อนก็ได้” เพราะคำพูดเล็ก ๆ แบบนี้ทำให้พนักงานรู้ว่าองค์กรเห็นพวกเขาเป็นคน ไม่ใช่แค่แรงงานในเครื่องจักร
Vision ที่ดีต้องไม่ทิ้งคนไว้ข้างหลัง
องค์กรที่มองไกลจะรู้ว่าความสำเร็จไม่ได้วัดจากเป้าหมายที่ทำได้เร็วแค่ไหน แต่จากจำนวนคนที่ยังอยู่และพร้อมเดินต่อด้วยกัน Vision ที่แท้จริงจึงไม่ใช่ภาพของอนาคตที่สวยที่สุด แต่คือการสร้างวันนี้ให้มั่นคงพอสำหรับทุกคนที่จะเดินไปถึงจุดนั้น
เพราะสุดท้ายแล้ว องค์กรไม่ใช่ตึก ไม่ใช่โลโก้ หรือแผนธุรกิจ แต่คือ “คน” ที่ตื่นมาทำงานทุกวันเพื่อให้ Vision กลายเป็นจริง และหากวันหนึ่งคนเหล่านั้นหมดแรง ความฝันขององค์กรก็จะหยุดลงตรงนั้นเช่นกัน
การมี Vision ชัดเจนคือสิ่งดี เพราะมันทำให้องค์กรมีทิศทาง แต่ Vision ที่ดีจริง ๆ ต้องมีหัวใจ ต้องมองเห็นความเหนื่อย ความรู้สึก และความเป็นมนุษย์ของทีมงาน
เพราะองค์กรไม่ได้เดินด้วยความฝันของผู้นำเพียงคนเดียว แต่เดินด้วยพลังของทุกคนที่ร่วมกันสร้างฝันนั้นขึ้นมา ถ้า Vision คือแสงนำทาง ระบบดูแลคนคือเชื้อไฟที่ทำให้แสงนั้นไม่ดับกลางทาง
