
เนื่องจากคำว่า “Google AI” มีความหมายกว้าง และ Google ใช้ AI ในอัลกอริทึมการจัดอันดับมานานแล้ว บทความนี้จึงจะมุ่งเน้นไปที่การปรับตัวให้เข้ากับอัลกอริทึมที่ทันสมัยของ Google ซึ่งรวมถึง AI และการทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้ในยุคปัจจุบัน
Google พัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้งด้วยเทคโนโลยี AI เช่น RankBrain และ BERT การทำ SEO (Search Engine Optimization) จึงไม่ได้จำกัดอยู่แค่การใส่ Keyword จำนวนมากอีกต่อไป แต่เป็นการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง บทความนี้จะสรุปแนวทางการทำ SEO ยุคใหม่เพื่อเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ติดอันดับ Google และเป็นที่แนะนำของผู้ใช้งาน
1. สร้างเนื้อหาคุณภาพสูงสุด
หัวใจสำคัญของการทำ SEO ในปัจจุบันคือการสร้างเนื้อหาที่ตอบโจทย์หลักการ E-E-A-T ซึ่งย่อมาจาก
- Experience (ประสบการณ์) เนื้อหาควรมาจากประสบการณ์จริงของผู้เขียน เช่น รีวิวสินค้าที่เคยใช้ หรือการเล่าเรื่องการเดินทาง
- Expertise (ความเชี่ยวชาญ) เนื้อหาควรเขียนโดยผู้ที่มีความรู้หรือความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
- Authoritativeness (ความมีอำนาจ) เว็บไซต์ควรเป็นที่ยอมรับและได้รับการอ้างอิงจากแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือ
- Trustworthiness (ความน่าเชื่อถือ) เนื้อหาและข้อมูลต้องถูกต้อง, เป็นกลาง, และไม่มีเจตนาหลอกลวง
Google AI ถูกพัฒนาให้สามารถประเมินคุณภาพของเนื้อหาตามหลักการนี้ได้ หากเนื้อหาของคุณมีคุณสมบัติครบถ้วน โอกาสที่จะติดอันดับก็จะสูงขึ้น
2. เน้นความตั้งใจในการค้นหา
ในอดีต ผู้คนค้นหาด้วยคำสั้นๆ แต่ปัจจุบัน Google AI เข้าใจ “ความตั้งใจ” ที่ซับซ้อนของผู้ใช้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น:
- ถ้าผู้ใช้ค้นหาคำว่า “รองเท้าวิ่ง” พวกเขาอาจจะต้องการข้อมูลรีวิว, คำแนะนำ, หรือต้องการซื้อ
- ถ้าผู้ใช้ค้นหา “รองเท้าวิ่ง Nike React” พวกเขามีความตั้งใจเฉพาะเจาะจงที่จะหารีวิว หรือต้องการเปรียบเทียบราคา
ดังนั้น การสร้างเนื้อหาจึงควรตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของผู้ใช้ โดยอาจจะต้องมีหลายบทความเพื่อตอบโจทย์ความตั้งใจที่แตกต่างกัน
3. ปรับปรุงเว็บไซต์ให้ใช้งานง่ายบนทุกอุปกรณ์
Google ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ผู้ใช้ (User Experience) มากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณา
- ความเร็วของเว็บไซต์ (Page Speed) เว็บไซต์ที่โหลดเร็วจะส่งผลดีต่ออันดับใน Google
- การรองรับมือถือ (Mobile-Friendly) เว็บไซต์ต้องแสดงผลได้อย่างถูกต้องบนหน้าจอทุกขนาด เพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ
- การนำทางที่เข้าใจง่าย (Intuitive Navigation) โครงสร้างเว็บไซต์ควรจัดระเบียบอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถหาข้อมูลที่ต้องการได้ง่ายและรวดเร็ว
4. เทคนิคการเขียน Prompt เพื่อให้ AI เข้าใจเนื้อหา
แม้ว่าการเขียน Prompt จะไม่ใช่การทำ SEO โดยตรง แต่ก็สามารถช่วยให้เนื้อหาที่สร้างขึ้นมีคุณภาพสูงได้ในเวลาอันสั้น ลองใช้หลักการต่อไปนี้
- กำหนดบทบาท บอกให้ AI ทราบว่าคุณต้องการให้มันเขียนในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านใด เช่น “คุณคือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ โปรดเขียนบทความเรื่อง…”
- ให้บริบทที่ชัดเจน ระบุเป้าหมายและกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน เช่น “เขียนบทความสำหรับนักวิ่งมือใหม่ที่กำลังมองหารองเท้าคู่แรก”
- ใส่ข้อจำกัด บอกให้ AI เขียนเนื้อหาในรูปแบบที่ต้องการ เช่น “เนื้อหาต้องมี 3 หัวข้อหลัก และแต่ละหัวข้อต้องมีอย่างน้อย 200 คำ”
การใช้ AI มาช่วยเขียนบทความต้องไม่ลืมที่จะ ตรวจสอบและปรับแก้ เนื้อหาด้วยตนเอง เพื่อให้เนื้อหามีความเป็นมนุษย์และสอดคล้องกับหลักการ E-E-A-T อย่างแท้จริง
การทำ SEO ในยุค AI คือการกลับสู่พื้นฐานที่แท้จริง นั่นคือ “การสร้างคุณค่า” ให้กับผู้ใช้ หากเว็บไซต์ของคุณนำเสนอเนื้อหาที่ตอบโจทย์, มีความน่าเชื่อถือ, และใช้งานง่าย โอกาสที่ Google AI จะเลือกเว็บไซต์ของคุณไปแสดงเป็นอันดับแรกๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป