
เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูฝนหรือฤดูหนาว หลายคนมักเจ็บป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ โดยเฉพาะ ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) ซึ่งเป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายได้ง่ายและรวดเร็ว วัคซีนไข้หวัดใหญ่จึงถูกแนะนำให้ฉีดเป็นประจำทุกปี แต่คำถามสำคัญคือ วัคซีนนี้ช่วยอะไรได้บ้าง และสามารถป้องกันการเป็นไข้หวัดใหญ่ได้จริงหรือไม่
ความสำคัญของวัคซีนไข้หวัดใหญ่
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ถูกพัฒนามาเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายให้สามารถต่อสู้กับเชื้อไวรัสสายพันธุ์ที่คาดว่าจะระบาดในแต่ละปี เนื่องจากไวรัสไข้หวัดใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์อยู่เสมอ องค์การอนามัยโลกจึงมีการคาดการณ์และกำหนดสูตรวัคซีนใหม่ทุกปี เพื่อให้ประชาชนได้รับการป้องกันที่เหมาะสมที่สุด
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ช่วยลดความรุนแรงของโรค
แม้วัคซีนจะไม่สามารถการันตีได้ว่าผู้ที่ฉีดแล้วจะไม่ติดเชื้อเลย แต่ประโยชน์ที่ชัดเจนคือช่วยลดความรุนแรงของอาการ ผู้ที่ได้รับวัคซีนมักมีอาการเบากว่าผู้ที่ไม่ได้ฉีด ลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดบวม หลอดลมอักเสบ หรือภาวะหอบหืดกำเริบ รวมถึงลดอัตราการนอนโรงพยาบาลและการเสียชีวิตในกลุ่มเสี่ยง
วัคซีนช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อ
การฉีดวัคซีนไม่ได้เพียงช่วยป้องกันตัวเอง แต่ยังช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อไปสู่คนรอบข้าง โดยเฉพาะในครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว การฉีดวัคซีนจึงเป็นการสร้างเกราะป้องกันทั้งระดับบุคคลและระดับสังคม
ใครบ้างที่ควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นพิเศษ
- เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยเฉพาะเด็กเล็กต่ำกว่า 2 ปี
- ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน โรคปอดเรื้อรัง โรคตับ หรือโรคไต
- หญิงตั้งครรภ์ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนสูง
- บุคลากรทางการแพทย์และผู้ที่ต้องพบปะผู้คนจำนวนมาก
- ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
ป้องกันการเป็นไข้หวัดใหญ่ได้ 100% หรือไม่
คำตอบคือ ไม่สามารถป้องกันได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากไวรัสมีการกลายพันธุ์อยู่ตลอด ทำให้บางครั้งสายพันธุ์ที่ระบาดจริงอาจแตกต่างจากสูตรวัคซีนที่ผลิตไว้ อย่างไรก็ตาม การฉีดวัคซีนยังคงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดความเสี่ยง เพราะแม้จะติดเชื้อ อาการก็มักไม่รุนแรงและหายได้เร็วกว่า
ประโยชน์อื่นๆ ของวัคซีนไข้หวัดใหญ่
- ลดจำนวนวันลาป่วยและผลกระทบต่อการทำงานหรือการเรียน
- ลดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลที่เกิดจากภาวะแทรกซ้อน
- ลดโอกาสการติดเชื้อแทรกซ้อนอื่น เช่น การติดเชื้อแบคทีเรียในปอด
- ช่วยป้องกันการระบาดในวงกว้างเมื่อมีการฉีดในระดับชุมชน
ข้อควรรู้ก่อนรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่
- ควรฉีดวัคซีนเป็นประจำทุกปี เพราะภูมิคุ้มกันจากวัคซีนจะคงอยู่ประมาณ 6-12 เดือน และสายพันธุ์ไวรัสมีการเปลี่ยนแปลงตลอด
- วัคซีนไม่เหมาะกับผู้ที่แพ้ส่วนประกอบของวัคซีนอย่างรุนแรง เช่น โปรตีนไข่
- อาการข้างเคียงส่วนใหญ่มักเป็นเพียงชั่วคราว เช่น ปวด บวม แดงบริเวณที่ฉีด หรือมีไข้ต่ำๆ
สรุป
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้เต็มร้อย แต่มีบทบาทสำคัญในการลดความเสี่ยง ลดความรุนแรงของโรค และลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงอย่างเด็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และผู้มีโรคประจำตัว การฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่องทุกปีคือเกราะป้องกันที่ช่วยให้เราปลอดภัยมากขึ้น พร้อมทั้งช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อในสังคม ดังนั้นการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จึงถือเป็นหนึ่งในวิธีดูแลสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม