รากฟันเทียมราคาเท่าไร คุ้มไหม เจาะลึกทุกปัจจัยก่อนตัดสินใจทำจริง

ในยุคปัจจุบัน “รากฟันเทียม” กลายเป็นทางเลือกหลักของผู้ที่สูญเสียฟันแท้ ไม่ว่าจะจากอุบัติเหตุ ฟันผุ หรือโรคเหงือก เพราะสามารถทดแทนฟันธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งด้านความสวยงาม การเคี้ยวอาหาร และความมั่นใจในการยิ้ม แต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่มักสงสัยและถามมากที่สุดคือ “รากฟันเทียมราคาเท่าไหร่?” บางคลินิกเสนอราคาหลักหมื่น บางแห่งแตะหลักแสน ทำไมถึงแตกต่างกันขนาดนั้น

บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจเรื่อง ราคาของรากฟันเทียมอย่างละเอียด พร้อมเจาะปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่าย และเคล็ดลับเลือกทำให้คุ้มค่าที่สุด ทั้งปลอดภัย ได้มาตรฐาน และเหมาะกับสภาพช่องปากของคุณ

เข้าใจพื้นฐานของรากฟันเทียมก่อนคิดเรื่องราคา

รากฟันเทียม (Dental Implant) คือรากฟันเทียมที่ทำจากวัสดุโลหะไทเทเนียม (Titanium) ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษคือเข้ากับกระดูกได้ดี โดยทันตแพทย์จะฝังรากนี้ลงไปในกระดูกขากรรไกร เพื่อใช้เป็นฐานรองรับ “ครอบฟัน” ที่จะทำหน้าที่เหมือนฟันธรรมชาติ รากฟันเทียมจึงมีอายุการใช้งานยาวนานและให้ความรู้สึกเหมือนฟันแท้มากที่สุดในบรรดาวิธีทดแทนฟัน

องค์ประกอบหลักของรากฟันเทียมมี 3 ส่วน

1. รากเทียม (Implant Fixture) – ส่วนที่ฝังในกระดูกขากรรไกร
2. แกนเชื่อม (Abutment) – ส่วนที่เชื่อมระหว่างรากกับครอบฟัน
3. ครอบฟัน (Crown) – ส่วนที่เห็นได้ชัดบนเหงือก ทำจากเซรามิกหรือวัสดุอื่นที่มีสีเหมือนฟันจริง

การทำรากฟันเทียมไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่ยังช่วยป้องกันกระดูกขากรรไกรยุบและคงโครงหน้าไว้ได้เหมือนเดิม

รากฟันเทียมราคาเท่าไร ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง

ราคาของรากฟันเทียมไม่ได้มีตัวเลขตายตัว เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งสภาพช่องปาก วัสดุที่ใช้ และชื่อเสียงของคลินิก โดยทั่วไป ราคาจะอยู่ที่ 30,000 – 80,000 บาทต่อซี่ แต่ถ้ามีขั้นตอนพิเศษเพิ่มเติม อาจสูงถึง 100,000 บาทขึ้นไป

มาดูกันว่าอะไรคือปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาต่างกัน

1. วัสดุของรากเทียม
   รากฟันเทียมส่วนใหญ่ทำจากไทเทเนียม ซึ่งมีหลายเกรด และแต่ละแบรนด์ใช้เทคโนโลยีการผลิตต่างกัน เช่น Straumann, Nobel Biocare, Osstem, SIC ซึ่งแบรนด์ยุโรปหรืออเมริกามักมีราคาสูงกว่า เพราะผ่านการทดสอบทางคลินิกมายาวนานและมีอัตราการยึดติดของกระดูกสูงกว่า
2. วัสดุครอบฟัน (Crown)
   ครอบฟันมีทั้งแบบโลหะผสมพอร์ซเลน (PFM) และแบบเซรามิกเต็มซี่ (All Ceramic) หากต้องการฟันที่ดูเป็นธรรมชาติและทนทาน ราคาก็จะสูงขึ้นตามคุณภาพวัสดุ
3. จำนวนซี่ที่ทำ
   ราคาต่อซี่จะลดลงถ้าทำหลายซี่ในคราวเดียวกัน เช่น การทำรากฟันเทียมแบบ All-on-4 หรือ All-on-6 ซึ่งเป็นการฝังรากเพียง 4 หรือ 6 ตัวเพื่อรองรับฟันปลอมทั้งแถว
4. สภาพช่องปากและปริมาณกระดูก
   หากมีกระดูกขากรรไกรละลายหรือเหงือกไม่แข็งแรง อาจต้องทำการปลูกกระดูก (Bone Graft) หรือยกไซนัส (Sinus Lift) เพิ่มเติม ซึ่งมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 10,000 – 50,000 บาทขึ้นอยู่กับความยาก
5. ประสบการณ์ของทันตแพทย์
   ทันตแพทย์เฉพาะทางด้านรากฟันเทียมหรือศัลยแพทย์ช่องปากที่มีประสบการณ์สูงมักคิดค่าบริการสูงกว่า แต่ให้ความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยและผลลัพธ์ระยะยาว
6. สถานที่และเครื่องมือของคลินิก
   คลินิกที่ใช้เครื่องมือดิจิทัล เช่น 3D CT Scan หรือระบบวางตำแหน่งรากด้วยคอมพิวเตอร์ (Computer-Guided Implant) จะมีความแม่นยำสูงและลดความเสี่ยง ซึ่งมีผลต่อราคาเช่นกัน

เปรียบเทียบราคาคร่าวๆ ของรากฟันเทียมในไทย

ราคานี้เป็นเพียงค่าเฉลี่ยในคลินิกทันตกรรมมาตรฐาน ราคาจริงอาจแตกต่างขึ้นอยู่กับแต่ละสถานที่และความซับซ้อนของเคส

ข้อดีของรากฟันเทียมที่คุ้มกับราคาที่จ่าย

1. ดูเป็นธรรมชาติที่สุด  ฟันเทียมที่ติดบนรากมีลักษณะและสีใกล้เคียงฟันจริงมาก
2. เคี้ยวอาหารได้เต็มที่ แรงบดเคี้ยวเกือบเท่าฟันธรรมชาติ ไม่มีการหลวมเหมือนฟันปลอมถอดได้
3. ไม่ทำลายฟันข้างเคียง  ต่างจากสะพานฟันที่ต้องกรอฟันดีเพื่อรองรับ
4. ดูแลรักษาง่าย  เพียงแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันเหมือนฟันจริง
5. อายุการใช้งานยาวนาน  หากดูแลดีสามารถอยู่ได้กว่า 15–20 ปี

ข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจทำรากฟันเทียม

• ควรตรวจสุขภาพช่องปากให้พร้อมก่อน โดยเฉพาะเหงือกและกระดูก
• คนที่เป็นโรคเบาหวาน ควรควบคุมระดับน้ำตาลให้ปกติ
• ผู้ที่สูบบุหรี่จัดอาจมีความเสี่ยงต่อการไม่ยึดติดของราก
• ต้องมีระยะเวลาในการรักษาอย่างน้อย 3–6 เดือน เพื่อให้รากยึดติดกับกระดูกก่อนใส่ครอบฟัน

เทคนิคเลือกคลินิกทำรากฟันเทียมให้ปลอดภัยและคุ้มค่า

1. เลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตถูกต้องและมีทันตแพทย์เฉพาะทางด้านรากฟันเทียม
2. ตรวจสอบรีวิวจากผู้ใช้จริงและผลงานก่อนหน้า
3. คลินิกที่ดีจะอธิบายขั้นตอนและค่าใช้จ่ายทั้งหมดอย่างโปร่งใส ไม่มีค่าซ่อน
4. ใช้วัสดุที่ผ่านมาตรฐานสากล เช่น FDA หรือ CE
5. มีระบบติดตามผลหลังการรักษาและรับประกันผลงาน

สรุป

รากฟันเทียม ราคา อาจจะสูงกว่าฟันปลอมทั่วไป แต่เมื่อพิจารณาด้านความทนทาน ความสะดวกในการใช้งาน และความมั่นใจที่กลับคืนมา ถือเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพช่องปากที่คุ้มค่าในระยะยาว การเลือกรากฟันเทียมที่เหมาะสม ไม่ควรดูจากราคาเพียงอย่างเดียว แต่ควรพิจารณาคุณภาพของวัสดุ ทันตแพทย์ผู้ทำ และมาตรฐานคลินิกประกอบด้วย หากคุณกำลังคิดจะทำรากฟันเทียม ควรเข้ารับคำปรึกษาจากทันตแพทย์เฉพาะทางก่อน เพื่อประเมินสภาพช่องปากอย่างละเอียดและเลือกแผนรักษาที่ปลอดภัย เหมาะสม และคุ้มค่าที่สุดสำหรับคุณ


About the Author

แอดมิน

Administrator

นักเขียนที่ชอบท่องโลก Google แวะเวียนหาข้อมูลเตาะแตะตามเว็บไซต์ และใช้ AI เป็นผู้ช่วยยามต้องการคำตอบจากโจทย์ ยินดีต้อนรับสู่บทความของเรา

Visit Website View All Posts